Big Data นั้นถ้าแปลเป็นไทยคงจะเป็น
"อภิมหาข้อมูล หรือ ข้อมูลที่มากมายมหาศาล" ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีและระบบต่างๆ
ทำให้องค์กรมีการเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างมากมายมหาศาลแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และองค์กรที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลเหล่านี้ก็ย่อมรู้จักที่จะใช้หรืออภิมหาข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการตัดสินใจเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กร
ซึ่งมีงานวิจัยชี้ออกมาแล้วว่าองค์กรที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลในการตัดสินใจ หรือ
เป็นลักษณะ Data-Driven นั้นจะมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าองค์กรที่ไม่ได้ให้ความสำคัญแก่ข้อมูล
ข้อมูลที่องค์กรทุกแห่งเก็บเป็นปกติอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นตัวเลขทางด้านการเงิน
ตัวเลขทางด้านการดำเนินงาน ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน หรือ
ข้อมูลในระบบ ERP ระบบฐานข้อมูล ระบบ Warehouse ฯลฯ
ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งสำคัญของเจ้า Big Data ทั้งสิ้น
ที่สำคัญคือปริมาณของข้อมูลเหล่านี้กลับทวีปริมาณมากขึ้นทุกขณะ นอกจากนี้แหล่งของอภิมหาข้อมูลในปัจจุบันก็มาจากแหล่งที่เราคาดไม่ถึงกันมากด้วย
ไม่ว่าจะมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งโทรศัพท์Smartphone
ส่วนใหญ่ต่างมีระบบ Location-Based Services ทั้งสิ้น และแหล่งสำคัญสุดท้ายสำหรับเจ้าอภิมหาข้อมูลคือบรรดา
Social Networks
Cloud Computing ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ทั้งด้านความต้องการของผู้ใช้และทรัพยากรที่จำกัด
เช่น ผู้ใช้งานระบบต้องการพื้นที่ในการเก็บข้อมูล ความเร็วในการประมวลผล
และติดต่อลูกค้า Cloud computing จะเข้ามาทำการประมวลผลตามความต้องการทั้งเรื่องของพื้นที่
และสามารถจำกัดความเร็วในการประมวลผลให้ตรงความต้องการของผู้ใช้งานที่ร้อง ขอไป โดยให้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานร่วมกัน
เชื่อมโยงและแบ่งกันประมวลผล ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ร่วมประมวลผลหลายๆ
เครื่องไม่จำเป็นต้องตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน แต่เชื่อมต่อกันผ่านระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลในกลุ่มที่เราเรียกว่า Cloud
นี้ อาจจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้มีระบบปฏิบัติการและทรัพยากรเหมือนกัน
และหน้าจอของผู้ใช้งาน (User Interface) จะแสดงผลที่รวดเร็วตามความต้องการของระบบที่ร้องขอไป
โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรู้ว่า เบื้องหลังนั้นระบบจะทำงานกันอย่างไร